เตรียมพื้นก่อนติดกระเบื้องยางม้วน ทำอย่างไรให้เรียบเนียน?

การติดกระเบื้องยางม้วนที่สวยงามและทนทานไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของกระเบื้องเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเตรียมพื้นผิวให้ถูกต้อง หลายคนมักจะมองข้ามขั้นตอนนี้ จนทำให้กระเบื้องยางเป็นฟอง หลุด หรือสึกหลอเร็วกว่าที่ควรจะเป็น การเตรียมพื้นที่ดีจะช่วยให้กระเบื้องยางม้วนติดแน่น เรียบเนียน และใช้งานได้นานขึ้น ซึ่งในระยะยาวจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่

บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนการเตรียมพื้นอย่างละเอียด ตั้งแต่การตรวจสอบสภาพพื้น การปรับระดับ ไปจนถึงเทคนิคเฉพาะที่จะทำให้คุณได้พื้นผิวที่เรียบเนียนและพร้อมสำหรับการติดกระเบื้องยางม้วน

การตรวจสอบสภาพพื้นเดิม

ประเมินความเรียบของพื้น

ก่อนเริ่มการเตรียมพื้น ต้องตรวจสอบสภาพพื้นเดิมก่อน ใช้ไม้บรรทัดยาว 2 เมตร วางตรวจสอบความเรียบ หากมีช่องว่างระหว่างไม้บรรทัดกับพื้นเกิน 3 มิลลิเมตร แสดงว่าพื้นไม่เรียบพอ

การตรวจสอบควรทำทุกทิศทาง ทั้งแนวตั้ง แนวนอน และแนวทแยง เพราะความไม่เรียบในทิศทางใดทิศทางหนึ่งก็จะส่งผลต่อการติดกระเบื้องยาง

ตรวจสอบความแข็งแรงและความชื้น

พื้นที่จะติดกระเบื้องยางต้องแข็งแรงและไม่โก่งตัว ทดสอบโดยการเดินกระทืบดู หากมีเสียงดังหรือรู้สึกว่าพื้นโก่งตัว ต้องเสริมความแข็งแรงก่อน

การตรวจสอบความชื้นก็สำคัญเช่นกัน ใช้เครื่องวัดความชื้นหรือวิธีง่าย ๆ โดยเอาพลาสติกปิดพื้นทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หากมีหยดน้ำใต้พลาสติก แสดงว่ามีความชื้นสูง

การทำความสะอาดพื้นผิว

กำจัดสิ่งสกปรกและคราบต่าง ๆ

เริ่มจากการกวาดและดูดฝุ่นให้สะอาด จากนั้นใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะกับประเภทของพื้น สำหรับคราบน้ำมันหรือไขมัน ใช้น้ำยาขจัดไขมันเฉพาะ

คราบสีหรือกาวเก่า ต้องขูดออกให้หมด สามารถใช้เครื่องขัดกระดาษทรายหยาบช่วย แต่ต้องระวังอย่าให้พื้นเป็นหลุมบ้อม

การขจัดสีเก่าและการเตรียมพื้นผิว

หากพื้นเดิมเป็นสี ต้องขจัดสีที่หลุดลอกออกให้หมด ใช้เครื่องขัดหรือน้ำยาลอกสี สำหรับสีที่ติดแน่น สามารถขัดผิวให้หยาบเล็กน้อยเพื่อให้กาวติดได้ดีขึ้น

การเตรียมพื้นผิวที่เป็นกระเบื้องเดิม ต้องตรวจสอบว่าติดแน่นหรือไม่ หากหลวม ต้องถอดออกหรือติดให้แน่นก่อน รอยต่อระหว่างกระเบื้องต้องอุดให้เรียบ

การปรับระดับและเรียบพื้น

เลือกวัสดุปรับระดับที่เหมาะสม

สำหรับพื้นคอนกรีตที่มีหลุมเล็ก ๆ ใช้ปูนปรับระดับแบบผสมน้ำ (Self-leveling compound) ซึ่งจะไหลไปเติมช่องว่างเองและแห้งเรียบ

หากพื้นมีความแตกต่างระดับมาก อาจต้องใช้ปูนซีเมนต์ผสมทรายปรับระดับก่อน แล้วจึงใช้ Self-leveling compound เป็นชั้นบนสุด

เทคนิคการปรับระดับอย่างมืออาชีพ

การผสมปูนปรับระดับต้องตามสัดส่วนที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ผสมทีละน้อยและใช้ให้หมดภายใน 20-30 นาที เพราะจะเริ่มแข็งตัว เทปูนตั้งแต่จุดที่สูงที่สุดไปยังจุดต่ำที่สุด ใช้ไม้ปาดยาวปาดให้เรียบ ระวังอย่าให้เกิดฟองอากาศ ใช้ลูกกลิ้งหนามช่วยไล่ฟองออก การปรับระดับพื้นที่กว้างควรแบ่งทำเป็นช่วง ๆ และมีคนช่วยเพื่อให้ทำงานได้รวดเร็วก่อนปูนแข็งตัว

การเตรียมวัสดุและเครื่องมือ

รายการเครื่องมือที่จำเป็น

• เครื่องมือพื้นฐาน: ไม้บรรทัดยาว เครื่องวัดระดับน้ำ ค้อนยาง ใบมีดคม ไม้ปาด รูเล็ต
• เครื่องมือขั้นสูง: เครื่องขัดพื้น เครื่องดูดฝุ่น เครื่องวัดความชื้น ลูกกลิ้งหนาม
• วัสดุสำหรับปรับระดับ: ปูน Self-leveling compound น้ำยาไพรเมอร์ กาว Primer

เครื่องมือที่ขาดไม่ได้คือไม้บรรทัดยาวสำหรับตรวจสอบความเรียบ และเครื่องวัดระดับน้ำสำหรับตรวจสอบความเอียง

การเลือกไพรเมอร์ที่เหมาะสม

• ไพรเมอร์ช่วยให้กาวติดกระเบื้องยางยึดเกาะกับพื้นได้ดีขึ้น เลือกไพรเมอร์ให้เหมาะกับประเภทของพื้น
• พื้นคอนกรีต: ใช้ไพรเมอร์แบบซึมผ่าน (Penetrating primer)
• พื้นไม้: ใช้ไพรเมอร์แบบยึดเกาะ (Bonding primer)
• พื้นเก่าที่มีสี: ใช้ไพรเมอร์แบบปิดผนึก (Sealing primer)
• การทาไพรเมอร์ต้องให้ทั่วและแห้งสนิทก่อน โดยทั่วไปรอ 2-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับชนิดของไพรเมอร์

ขั้นตอนการเตรียมพื้นขั้นสุดท้าย

การตรวจสอบความพร้อมของพื้น

หลังจากปรับระดับและทาไพรเมอร์แล้ว ต้องตรวจสอบความพร้อมอีกครั้ง ใช้ไม้บรรทัดตรวจสอบความเรียบ ต้องไม่มีช่องว่างเกิน 2 มิลลิเมตร ตรวจสอบความแข็งแรงโดยการเดินไปมา ถ้าพื้นยังโก่งตัวหรือมีเสียงดัง ต้องเสริมความแข็งแรงเพิ่มเติม

วิธีป้องกันปัญหาในอนาคต

• ควบคุมความชื้น ใช้เครื่องลดความชื้นในช่วงฤดูฝน และมีการระบายอากาศที่ดี
• เลือกวัสดุคุณภาพดี อย่าประหยัดในส่วนของวัสดุเตรียมพื้น เพราะจะส่งผลต่อความทนทานในระยะยาว
• ให้เวลาในการแห้ง อดทนรอให้แต่ละขั้นตอนแห้งสนิทก่อนทำขั้นตอนต่อไป

สรุป

การเตรียมพื้นก่อนติดกระเบื้องยางม้วนเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการติดตั้ง พื้นที่เตรียมได้ดีจะทำให้กระเบื้องยางติดแน่น ใช้งานได้นาน และดูสวยงาม ขั้นตอนหลักประกอบด้วยการตรวจสอบสภาพพื้นเดิม การทำความสะอาด การปรับระดับ และการทาไพรเมอร์

สิ่งสำคัญคือต้องให้เวลาในแต่ละขั้นตอน โดยเฉพาะการรอให้แห้งสนิท และเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพเหมาะสมกับประเภทของพื้น การลงทุนในการเตรียมพื้นที่ดีจะคุ้มค่ากว่าการต้องมาซ่อมแซมหรือติดใหม่ในภายหลัง