โครงสร้างของพื้น SPC มีกี่ชั้น?

พื้น SPC ทั่วไปประกอบด้วย 5 ชั้นหลัก ได้แก่
1. High Protection and Resistance PU Layer
ชั้นโพลียูรีเทน (PU) คือชั้นบนสุดของแผ่นพื้น SPC ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกัน เพิ่มความแข็งแรง ทนต่อรอยขีดข่วน คราบสกปรก และรังสี UV ได้ดี ช่วยคงสภาพผิวหน้าสวยงามยาวนาน และทำความสะอาดง่าย เหมาะกับพื้นที่ที่มีคนเดินผ่านบ่อย
2. Wear Layer
ถัดลงมาคือ ชั้นกันสึกหรอโปร่งใส ที่ช่วยปกป้องลวดลายพิมพ์จากการขัดถูและรอยขีดข่วนในแต่ละวัน ชั้นนี้มีผลโดยตรงต่อความทนทานของพื้น ยิ่งชั้นนี้หนาเท่าไร พื้นก็ยิ่งรองรับการใช้งานหนักได้ดีขึ้น เหมาะกับบ้านที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง รวมถึงพื้นที่เชิงพาณิชย์
3. Printed Layer
ชั้นพิมพ์ลายไวนิลตกแต่ง เป็นชั้นที่ทำให้พื้น SPC มีความสวยงามเลียนแบบวัสดุธรรมชาติได้สมจริง เช่น ลายไม้ ลายหิน หรือกระเบื้อง โดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ HD ให้สีสันและลวดลายที่คมชัด ตอบโจทย์การตกแต่งทุกสไตล์
4. Rigid Core of SPC
นี่คือหัวใจสำคัญของพื้น SPC — Rigid Core ผลิตจากหินปูนผสม PVC อัดแน่น แข็งแรงสูง ทนแรงกระแทกได้ดี กันน้ำ 100% และไม่บวมเมื่อโดนความชื้น มีความเสถียรด้านมิติ ทำให้ไม่โก่งงอแม้ในพื้นที่อุณหภูมิสูงหรือต่ำ เหมาะกับห้องน้ำ ครัว หรือโถงทางเดิน
5. Attached Pad (IXPE Foam)
ชั้นล่างสุดคือ แผ่นโฟม IXPE ที่ช่วยซับแรงและลดเสียงรบกวนเวลาเดิน เพิ่มความนุ่มสบายในการใช้งาน เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัยและสำนักงานที่ต้องการความเงียบ
ทำไมควรรู้โครงสร้างของพื้น SPC?
เพื่อเลือกให้ตรงกับความต้องการ
พื้น SPC ที่มี Wear Layer หนาเหมาะกับพื้นที่สาธารณะหรือร้านค้า แต่ถ้าใช้ในบ้านอาจเลือกแบบชั้นบางลงได้เพื่อความคุ้มค่า
เพื่อดูแลรักษาได้ถูกวิธี
รู้ว่าชั้นบนสุดคือ PU และ Wear Layer ช่วยให้คุณเลือกน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสม ป้องกันการกัดกร่อนผิวหน้า
สรุป: พื้น SPC โครงสร้างครบ คุ้มค่าในทุกมิติ
พื้น SPC มีจุดเด่นที่โครงสร้างหลายชั้นซ้อนกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ชั้น PU ที่ป้องกันรอยขีดข่วน ชั้น Wear ที่ช่วยให้ทนสึก ชั้นพิมพ์ลายที่สวยงามเสมือนจริง แกนกลาง Rigid Core ที่แข็งแรงและกันน้ำ และ IXPE ที่ช่วยให้เดินนุ่มสบาย